อัพเดทล่าสุด: 14 มี.ค. 2024
521 ผู้เข้าชม
หลายคนคงจะคุ้นเคยกับคำว่า "ISO" ซึ่งมาจากคำว่า "International Organization for Standardization"
อันเป็นมาตรฐานรับรองสากดที่องค์กรธุรกิจทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยจะแบ่งย่อยมาตรฐานด้านต่างๆ ตามแต่ละอุตสาหกรรมออกไปตามตัวเลขเช่น ISO 9001:2015 ก็จะหมายถึงการรับรองคุณภาพด้านการจัดการขององค์กร
คุณภาพด้านการจัดการขององค์กรคืออะไร มีผลอะไรต่อการผลิตเครื่องสำอาง ทำไมต้องผลิตกับโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001
ทำไมต้องเลือกผลิตกับโรงงานมาตรฐาน ISO
- ลูกค้ามั่นใจได้ว่าจะได้สินค้า และบริการที่มีมาตรฐาน
โรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO จะมีการรักษาคุณภาพของสินค้า และบริการให้ดีอยู่เสมอ เพื่อตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า เพราะสิ่งที่จะเป็นปัจจัยหลักให้ผ่านการรับรอง ISO นั้นนั่นก็คือการสร้าง และรักษามาตรฐานนั้นๆ ไว้ได้ นอกจากนี้โรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO จะมีการตรวจติดตาม และประเมิณความสามารถขององค์กรทั้งจากหน่วยงานภายนอก และหน่วยงานอื่นๆ จากภายในองค์กรเองอีกด้วย
ด้วยเหตุผลนี้จึงมั่นใจได้ว่า ถ้าอยากได้สินค้า และบริการที่มีมาตรฐานดีไม่มีตก ต้องเลือกโรงงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล เช่น ISO เป็นต้น - ลูกค้าเป็นบุคคลสำคัญเสมอ
หนึ่งในข้อกำหนดการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2015 นั้นคือการให้ความสำคัญกับลูกค้า ด้วยเหตุนี้จึงมั่นใจได้เลยว่าเมื่อคุณมาเป็นลูกค้าของเรา คุณจะเป็นบุคคลสำคัญเสมอ
- ได้รับบริการที่รวดเร็ว ตรวจสอบได้
นโยบายหลักที่ต้องปฏิบัติตามสำหรับองค์กรที่ผ่านมาตรฐาน ISO 9001 ก็คือ
- การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
- มีแผนการปฏิบัติที่ชัดเจน
- บุคลากรในองค์กรจะต้องมีความรู้ความสามารถ ในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
ด้วยนโยบายนี้ทำให้การทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
และนี่จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลว่าทำไมคุณควรเลือกใช้บริการโรงงานที่ผ่านมาตรฐาน ISO 9001
- ทุกกระบวนการมีผู้ดูแลงานชัดเจน ตามมาตรฐานการจัดการ
สำหรับโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่มีมาตรฐาน ISO 9001 จะมีการกำหนดผู้ดูแลงานที่ชัดเจนว่ากระบวนการในขั้นตอนการผลิตต่างๆ
ใครคือผู้รับผิดชอบเพื่อที่จะสามารถจัดการปัญหาระหว่างกระบวนการได้ทันท่วงที
- มีการวิเคราะห์ และประเมินผล
เป็นหนึ่งในกระบวนการของระบบบริหารงานคุณภาพโดยให้องค์กรมีการวิเคราะห์ และประเมิณผล
เพื่อให้สามารถมองเห็นข้อบกพร่องที่ผ่านมา และทำเนินการวางแผนในการปรับปรุงในปีถัดๆ ไป
ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าที่ได้ร่วมมาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ เพราะสามารถมั่นใจได้ว่าคู่ค้าของตนมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เปรียบเสมือนคู่ค้าลงทุนเท่าเดิมแต่ได้รับการบริการ และผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพมากขึ้น